ปลดล็อก Hate speech ด้วย Love speech

(ดร. นพ. ยุทธนา ภาระนันท์ 25 February 2014)

ความเป็นความตายอยู่ที่อำนาจของลิ้น
บรรดาผู้ที่รักมัน ก็จะกินผลของมัน (Adapted from Proverbs 18:21, 2013)

ภรรยา: คุณกินเหล้าให้น้อยลงได้ไหม
สามี: งั้นขอกินปีละ 365 ขวดนะ
ภรรยา: มากไปค่ะ
สามี: งั้นเหลือเดือนละ 30 ขวด
ภรรยา: ยังมากอยู่
สามี: งั้นสัปดาห์ละ 7 ขวด
ภรรยา: ไม่ค่ะ ยังากไปอยู่ดี
สามี: Ok งั้นผมขอวันละ 1 ขวด
ภรรยา: แหม ค่อยยังชั่วหน่อย

สามีช่างมีจิตวิทยาในการพูดเสียจริงๆ เล่นเอาภรรยาเคลิ้มตาม (ฮา) ในด้านจิตวิทยาการสื่อสารนั้นมีมุมมองว่า “สิ่งที่ออกมาจากปาก ก็ออกมาจากใจ” ดังนั้นวาจาที่สร้างความเกลียดชัง หรือ Hate speech ย่อมปลดล็อกได้ด้วย Love speech คือวาจาที่รักและเห็นคุณค่ากันและกัน

Hate speech หมายถึง การใช้คำพูดหรือการแสดงออกทางความหมายใดๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อโจมตีกลุ่มบุคคลหรือปัจเจกบุคคล โดยมุ่งไปที่ฐานของอัตลักษณ์ซึ่งอาจจะติดตัวมาแต่ดั้งเดิม หรือเกิดขึ้นภายหลังก็ได้ เช่น เชื้อชาติ ศาสนา สีผิว สถานที่เกิด/ที่อยู่อาศัย อุดมการณ์ทางการเมือง อาชีพ หรือลักษณะอื่นที่สามารถทำให้ถูกแบ่งแยกได้ (ศูนย์ศึกษานโยบายสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.2556)

ในทางจิตวิทยาเชิงบวก การมีใจรักและเห็นคุณค่ากันและกัน (Gratitude) ซึ่งช่วยส่งเสริม Love speech นั้น สามารถสร้างและฝึกฝนพัฒนาได้ (Developable) เพื่อตอบโจทย์ “เพื่อทำงานร่วมกันอย่างเห็นคุณค่าและมีความสุข จะมีทักษะวิธีอย่างไร?” ผมจึงออกแบบทักษะ “สร้างงานสร้างคุณค่า” โดยเปิดเพลงบรรเลง (Music therapy) ขณะให้เวลาแต่ละคนได้ทบทวนตนเอง (Self reflection) ถึงสิ่งดีๆ ที่ตนได้รับและอยากขอบคุณใครบ้าง โดยผมตั้งคำถามเชิงบวกแบบ 3G (Gain, Grow, Give) ด้วยแนวคิด NLP (Neuro-Linguistic Programming)

จากนั้นเปิดโอกาสให้แต่ละคนได้เดินไปและกล่าวขอบคุณกันและกัน ทำให้เกิดความปลาบปลื้ม ซาบซึ้งใจต่อกันมากยิ่ง ผมใช้ทักษะนี้ในหลักสูตร “สำนึกรักองค์กร…ด้วยพลังคิดบวก” โดยผมบรรยายให้กับทั้งภาครัฐและเอกชน หลายหน่วยงานด้วยกัน

วันนี้ เพื่อส่งเสริมวาจาแห่งรักและเห็นคุณค่าต่อกัน ผมขอเสนอ 3 แนวทาง ลองสำรวจดูครับ (Adapted from C.R.Synder & Shane J. Lopez. 2007)

แบบสำรวจแนวทางสร้างสุขด้วยใจขอบพระคุณ (Gratitude Check) (กรุณาศึกษาเพิ่มเติมที่ http://HowAreYou.co.th)
ช่วงที่ผ่านมา ท่านพบตัวเอง เป็นอย่างไรบ้าง? (กรุณา√หน้าข้อตามจริง)
1. เมื่อฉันหวนระลึกถึงสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตฉัน ฉันมีหลายบุคคลที่ฉันอยากจะขอบพระคุณท่านเหล่านั้น
2. เมื่อฉันมองไปในโลก ในธรรมชาติ ฉันรู้สึกขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่สร้างบ้านที่งดงามให้ฉันได้อยู่อาศัย
3. เมื่อฉันมีอายุมากขึ้น ฉันรู้สึกอยากขอบคุณบุคคลต่างๆ ที่ได้ช่วยฉันทั้งในสถานการณ์ทั้งราบรื่นและยากลำบาก จนมีฉันวันนี้

แปลผลและข้อเสนอแนะ: ยิ่งท่านมีมากข้อ แสดงว่าท่านมีวาจาสร้างรักและการเห็นคุณค่าต่อกัน มาก เพื่อพัฒนาในเรื่องนี้ ผมมีหลักสูตรแนะนำ ได้แก่ สร้างรักและผูกพันต่อองค์กร…ด้วยอุปนิสัยสร้างสุขสไตล์ 4C, EQ…หัวใจแห่งพลังทีมสร้างสุข, สู่ความเป็นเลิศ…ด้วยพลังทีมคิดบวก (Positive thinking) และท่านสามารถดูตัวอย่าง Workshop ที่ https://www.youtube.com/user/yparanan/videos, สนใจกรุณาติดต่อผมผ่าน e-mail ที่ Yparanan@Gmail.com หรือฝากข้อความผ่าน facebook ที่ www.facebook.com/yparanan

————
ข้อมูลอ้างอิง
ศูนย์ศึกษานโยบายสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.(2556). รายงานผลงานวิจัย เรื่อง “การกำกับดูแลสื่อที่เผยแพร่เนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง” Retrieved 25Feb 2014. From https://thainetizen.org/2013/07/online-hate-speech-in-thailand-research-chula/
C.R.Synder & Shane J. Lopez. (2007:292-293).Positive Psychology: The Scientific and Practical Explorations of Human Strengths. California: Sage Publications Inc.
Proverbs 18:21 (2013). Biblica. Retrieved May 25, 2013. From http://www.biblica.com/bible/browse-books/
Day by Day. (2555). ฮา ฮิฮิ. กรุงเทพฯ: แอปเปิ้ล กรีน